1- คุณค่าของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Productivity — การมองแบบนั้นเป็นการมองว่า ความสุขอยู่ในอนาคต “ถ้าฉัน…ฉันจะมีความสุขในที่สุด” ถ้าอยากมีความสุข ให้มีความสุข “ตอนนี้เลย”

.

2- การพักผ่อนมีคุณค่า เพราะทำให้ทำงานได้มากขึ้น ?— ปกติเป็นคนนอนกลางวันบางวัน และไปนั่งชิลล์ร้านกาแฟบ่อยๆ หลายครั้งเราคิดว่า พักผ่อนจะทำให้ดีต่องานมากกว่า แต่หนังสือเล่มนี้ตั้งคำถามว่า “ทำไมทุกอย่างต้องทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย? เราพักผ่อนเพื่อพักผ่อนไม่ได้หรือ?”

.

3- ทำสิ่งสำคัญก่อน / “จ่ายเวลา” ให้ตัวเองก่อน — ถ้าเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ ให้จ่ายเวลาให้ตัวเองก่อน ถ้าเราสำรวจตัวเองจะพบว่า ตัวเรา “ผัดผ่อน” เลื่อนสิ่งสำคัญในชีวิตออกไปเยอะมาก เพียงเพื่อจะไม่ต้องเผชิญกับคำถามว่า “ฉันทำอะไรกับชีวิตอยู่กันนะ”

.

4-งานจะขยายจนเติมเต็มเวลาที่มีอยู่ดี — แม่บ้านในสมัยก่อนเชื่อว่า ถ้ามีเครื่องซักผ้า อุปกรณ์ทำความสะอาด พวกเธอจะมีเวลาว่างมากขึ้น แต่สุดท้าย มาตรฐานความสะอาดของสังคมก็เพิ่มขึ้นจนต้องทำงานบ้านด้วยเวลาเท่าเดิม

.

5-ความเร็วกลายเป็นคุณธรรม — เราเชื่อว่า อุปกรณ์ทุ่นแรงต่างๆจะทำให้เราเป็นนายของเวลา แต่สิ่งที่เกิดคือ ยิ่งเราประหยัดเวลาได้มากเท่าไหร่ เรายิ่งใจร้อนมากขึ้นเท่านั้น

.

6-ระบอบเผด็จการ มีที่มาจากคนที่แยกกันโดดเดี่ยว — หลายครั้ง เทคโนโลยีรวมคนเข้าด้วยกัน แต่ก็แยกขาดคนบางกลุ่มออกไป คนบางคนอยู่ใน Echo Chamber และไม่ยึดโยงกับคนกลุ่มอื่น ทำให้พวกเขามีแนวโน้มจะเห็นด้วยกับระบอบเผด็จการ

.

7-แคนเซิล แคนเซิล และแคนเซิล — มันไม่ผิดอะไรเลยที่จะยกเลิกงานที่ไม่ได้สำคัญกับเราจริงๆ และการยกเลิกจะทำให้เราได้ทำสิ่งที่มีความหมายมากขึ้นด้วยซ้ำ ศิลปะแห่งการ “ผัดวันประกันพรุ่งอย่างมีความหมาย” จะทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์ขึ้น

.

8-เวลาไม่ได้เป็นเส้นตรง และไม่ได้ชั่งตวงวัดเป็นมูลค่าได้ — ในทางตรงข้าม เวลามีลักษณะที่เป็นสัมพัทธ์ (Relative) เพราะ 5 นาทีของแต่ละคนไม่เท่ากัน ยิ่งในสถานการณ์ COVID ก็ดูเหมือนเวลาได้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น มันยังเป็นสินค้าที่ขึ้นอยู่กับเครือข่าย คือขึ้นอยู่กับว่า คนอื่นเข้าถึงเวลาของเราได้มากน้อยแค่ไหน (เวลาจะมีคุณภาพแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคนอื่นด้วย)

.

9-หาสิ่งที่ทำให้คุณ “เข้าไปอยู่ในช่วงเวลาลึก” หรือ “Flow State” สิ่งนั้นอาจจะเป็นการนั่งเขียนหนังสือ (แบบที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้) หรือเดินในธรรมชาติ ในเวลาแบบนั้น นาฬิกายังเดินต่อไป เพียงแต่เราไม่ได้ยินเสียงมันเดิน

.

10-งานอดิเรกที่ดีควรทำให้เรารู้สึกอายหน่อยๆ — เพราะงานอดิเรกไม่ได้มีจุดประสงค์ให้เราเป็นคนเก่ง มันเป็นสิ่งที่เราทำโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทนในด้านเศรษฐกิจ และ “เราทำเพียงเพื่อจะได้ทำ” มันอย่างแท้จริง