ในบทความนี้ พริมจะมาเล่าถึง 4 เคล็ดลับ ช่วยให้คุณหายหมดไฟ โดยใช้คำสอนจากศาสนาพุทธกันค่ะ

แนะนำตัวก่อนเลย พริมเป็นที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ และนักเขียน ที่ช่วยคนหาอาชีพที่ชอบ ใช่ และได้เงิน พริมเองศึกษาศาสนาพุทธมาตั้งแต่ตอนเรียน และรู้สึกว่า จริงๆ แล้ว ของใกล้ตัวอย่างศาสนาพุทธเนี่ย ให้ความสำคัญกับการค้นพบตัวเองเหมือนกันนะ

การเจอศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง จะทำให้เราหาย Burnout ได้ค่ะ พริมเชื่ออย่างนั้น และในคำสอนของศาสนาพุทธก็มีเรื่องหนึ่งที่ช่วยให้เราทำงานได้เต็มศักยภาพ

เราเรียกคำสอนนี้ว่า อิทธิบาท 4 คือ เคล็ดลับของการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วยอะไรบ้าง มาดูกัน

1- ฉันทะ ความรักในงาน
2- วิริยะ ความพากเพียรในงาน
3- จิตตะ ความตั้งใจมั่นในงาน ไม่วอกแวก
4- วิมังสา การคิดทบทวนเกี่ยวกับงาน หรือ Review งานที่ทำไปแล้ว

หลักคำสอน 4 อย่างนี้จะทำให้เราหายหมดไฟได้อย่างไร?

ฉันทะ รักในงาน ช่วยให้งานมีความหมาย

ก่อนอื่น พริมเชื่อว่า การที่คนหมดไฟ อันดับแรกเกิดจากการไม่ชอบในงานที่ทำ ขาดความรัก ความอินในงานนั้น

ในจุดนี้เองที่ "ฉันทะ" ความรักในงานจะมาช่วยได้ เพราะเพียงแค่เรารักในงานที่ทำ งานทุกวันก็จะกลายเป็นเรื่องสนุก

ถ้าศาสนาพุทธเชื่อในศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ หนึ่งในความเชื่อนั้น น่าจะทำให้เราสรุปได้ว่า ชีวิตนี้เราควรหางานที่ทำให้เราได้ปลดปล่อยศักยภาพได้เต็มที่ หรือ "หาตัวเองเจอ" นั่นเองค่ะ

ถ้าเราได้เจองานที่รัก ก็เท่ากับเราก้าวขาออกจากอาการหมดไฟ หรือ Burnout แล้วข้างหนึ่ง

วิริยะ พากเพียรเพื่อความเป็นเลิศ

ถ้าใครเคยดูคลิป หรืออ่านบทความเรื่อง Ikigai ศาสตร์แห่งการงานที่มีความหมาย ของพริม จะรู้ว่า องค์ประกอบหนึ่งของงานที่ดีที่สุดในชีวิต คือ การที่เราถนัดในงานนั้นด้วย

วิริยะ หรือ ความพากเพียร จะทำให้เราสามารถเป็นเลิศในงานที่ทำอยู่ได้ ขอแค่เราไม่หยุดพยายาม เราก็จะถนัดและเก่งในงานนั้นขึ้นได้เอง พอเราเก่ง เราจะทำมันได้สบายขึ้น มีความเครียดในงานน้อยลง และไม่ Burnout ง่ายๆ อีก

จิตตะ ตั้งใจมั่นในงาน เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่โลก

มาถึงข้อ 3 คือ จิตตะ หรือการมีสมาธิตั้งมั่นในงานกันบ้าง ข้อนี้จะพาเราออกจากอาการหมดไฟได้ยังไง?

ถ้าเราเชื่อว่างานของเรามีความหมาย มีคุณค่ากับใครสักคน เราจะเทโฟกัสทั้งหมดของเราลงไปในงานนั้นใช่ไหมล่ะคะ

ในแง่หนึ่ง จิตตะ คือ การโฟกัส มีสมาธิกับงานจนงานเสร็จลุล่วงไปได้ และเราทำมันได้เพราะเราเชื่อว่า งานนั้นส่งมอบคุณค่าอะไรสักอย่างให้กับใครบางคน

สมมติถ้าเราทำงานโดยมีหน้าลูกค้าอยู่ในใจ คิดว่าเขาจะมีความสุขกับงานเราแค่ไหนตอนได้รับ เราก็จะไม่วอกแวก นี่เองคือการใช้จิตตะ เพื่อพาเราออกจากภาวะ Burnout ค่ะ

วิมังสา คิดทบทวนตัวเองเสมอ

ข้อนี้เป็นข้อที่พริมชอบที่สุดข้อหนึ่งเลย เพราะ การทบทวนตัวเองเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราค้นพบตัวเองได้

วิมังสา คือ การทำงานเสร็จลุล่วงไปแล้ว หรือ แม้จะยังไม่เสร็จ ก็กลับไปทบทวน Review งาน และผลของงานนั้น ว่าเราทำได้ดีหรือไม่ มีอะไรต้องปรับปรุงอีกมั้ย

ในทางหนึ่ง การได้กลับไปทบทวน ก็ทำให้เราได้เห็นว่า เราชอบอะไร เก่งอะไร มีจุดไหนที่จะทำให้เราได้รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็คือการทบทวน Ikigai ของตัวเอง (เดี๋ยวพริมจะแปะลิ้งค์คลิปและบทความเรื่อง Ikigai ไว้ตอนท้ายนะคะ)

พอเราทบทวนแล้ว เราก็เดินทางต่อได้ด้วยความมั่นใจยิ่งกว่าเดิม และหาสิ่งที่ตรงกับงานที่ใช่ของเราได้มากขึ้น

และการ Burnout ก็จะค่อยๆ หายไปเอง


ถ้าคุณชอบบทความนี้ พริมมีคลิป YouTube และบทความเกี่ยวกับ Ikigai ศาสตร์แห่งอาชีพและชีวิตที่มีความหมาย ตามไปดู ไปอ่าน กันได้ที่นี่ค่ะ

คลิป Ikigai: https://www.primmalikul.com/find-ikigai-to-stop-burnout/

บทความ Ikigai: https://www.primmalikul.com/ikigai-the-meaningful-job/


หนังสือ "ฟังอย่างลึกซึ้ง เพื่อช่วยตนเองและผู้อื่นจากภาวะ Burnout" หนังสือที่จะมาช่วยคุณทบทวนตัวเอง ในวันที่หมดไฟและอยากหาทางออก

ราคา 99 บาท (รูปแบบไฟล์ PDF)

ทักไลน์: https://lin.ee/z9S90hi