การทำงานด้วยความรู้สึกปลอดภัยเกิดขึ้นได้จริงนะคะ
.
ก่อนหน้านี้พริมเกิด Existential Crisis ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราทำงานไปทำไม ในโลกรอบตัวที่แสนวุ่นวายนี้ การทำงานจะทำให้ชีวิตเรามีความหมายจริงหรือ? สุดท้ายเราก็จะต้องตายและจากไปอย่างเงียบเชียบ แล้วอะไรคือเป้าหมายของการทำสิ่งเหล่านี้? ถ้าพรุ่งนี้เราจะต้องตาย เราจะยังเลือกงานอยู่มั้ย?
.
และอีกหลายคำถาม เกี่ยวกับการวนเวียนทำงาน งาน งาน เหมือนหนูถีบจักรที่ต้องไปข้างหน้าตลอดเวลา
.
จนได้เขียนหนังสือ ‘คุยเรื่องเงินกับพระเจ้า’ ก็เลยพบว่า มันมีคำตอบอยู่ในนั้น และนี่คือสิ่งที่พระเจ้าบอกพริมมาค่ะ
.
”การทำงานด้วยจิตใจที่ผ่อนคลายเป็นไปได้ และมันเป็นไปได้มาตลอด ที่เธอไม่อาจทำงานด้วยใจที่ผ่อนคลายเพราะสังคมบ่มเพาะให้เธอทำงานจากความกลัว มันเริ่มตั้งแต่ในครอบครัวและโรงเรียน ลองนึกย้อนกลับไปดูสิ ว่าถ้าเธอแก้โจทย์คณิตศาสตร์ผิด เธอจะโดนอะไร?“
.
พูดง่ายๆ คือ ถ้าตามคำพูดของ เจ. กฤษณะมูรติ เราโดน Condition ให้ต้องทำทุกสิ่งด้วยท่าทีบางอย่าง ที่เราไม่เคยตั้งคำถามเลยว่า มันจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดหรือ for the highest good หรือไม่ เรารู้แค่ว่า เวลาเราทำงาน เราจะต้องรู้สึกเร่งร้อน บางทีเราอยากทำตัวให้ดูยุ่ง จะได้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า กลายเป็นว่า ยิ่งเรารู้สึกเร่งร้อนมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีคุณค่ามากเท่านั้น ทำไมมัน Absurd จัง
.
ทีนี้ทำยังไงเราจะเป็นอิสระจากความกลัว ความเร่งร้อนต่างๆ นั้น พระเจ้า (ในหนังสือของพริม) บอกมาอีกค่ะว่าให้ ‘เฝ้าดูมันอย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง‘ และ ’Sit with Pain’
.
พอได้รู้แบบนั้น พริมเลยทดลองดูด้วยการดูท่าทีในการทำงานของตัวเอง แล้วพบว่ามันมีหลายอารมณ์ตีขึ้นมามาก ความกลัวงานไม่เสร็จ กลัวจะโดนว่า กลัวไม่มีเงินใช้ ทุกอย่างถาโถมเข้ามาทีเดียว แต่…
.
พระเจ้าบอกให้ ’ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง‘ ไหนลองดูมันตรงๆ ซิ ไม่ต้องทำอะไรกับมัน
.
แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น นั่นคือ มันมีโมเมนต์ที่เข้าใจว่า ’มันก็เป็นแบบนี้ของมันแหละ’
.
เท่านั้นแหละ โอ้โห ยูเรก้าโมเมนต์ คือ กุไม่ต้องถือสามันก็ได้นี่หว่า มันก็เหมือนกับเวลาเรานั่งทำงานแล้วปวดเมื่อยนิดๆ แต่เราก็ยังโอเคกับมันอ่ะ คือ มันเป็นแค่ ’ปรากฏการณ์‘ เว้ยย (ทางพุทธเขาเรียก ‘ตถตา‘)
.
ทีนี้ทำงานมันส์เลย เวลานั่งจัดหน้าหนังสือ ซึ่งเป็นงานที่ไม่ชอบเอามากๆ มันจะเห็นความทุกข์มาทักทายบอกว่า ’เบื่อโว้ย‘ ‘ปวดตา‘ ’ไม่หนุก‘ เราก็เห็นมันแล้วกล่าวสวัสดี แล้วก็ทำงานต่อไป คือมันไม่ปรุงมาเป็นอารมณ์บ่จอย แล้วมันทำงานได้แบบจอยๆ จริงๆ
.
คือในตัวเราทุกคนอ่ะ มันมีภาวะปลอดภัยนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่เราไม่รู้ตัวและไม่ได้ใส่ใจมัน มันเป็นอะไรคล้ายๆ กับ ตอนเราทำงานที่ยากมากให้สำเร็จได้ ถ้า Break Down ออกมา มันจะประกอบไปด้วย Step ที่เราทำได้ทีละ Step และในการทำ Step พวกนั้นให้เกิดขึ้นได้จริง มันมีภาวะ ‘จิตว่าง’ อยู่ในตัว (คือมันจะมีความเพลิน เลื่อนไหลประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าปราศจากความกังวลเสียทีเดียว)
.
พอรู้แบบนี้คือ เฮ้ย! ฉันจะทำอะไรให้สำเร็จมันก็ได้ทั้งนั้นเลยนี่หว่า (เช่น จัดหน้าหนังสืออีกสิบเล่ม Omg) เรา Master our own mind ก่อน แล้วใช้จิตอันนี้ทำงานให้ได้คุณภาพดี เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะก้าวหน้าไปเอง โดยไม่ต้องเร่งร้อน ไม่ต้องหวาดกลัวอะไร
.
เนี่ยแหละ การทำงานด้วยความรู้สึกปลอดภัยเกิดขึ้นได้จริง ทุกงาน ต่อให้น่าเบื่อแค่ไหน มันทำได้แบบ ‘จอยๆ มันส์ๆ‘ ทั้งนั้นเลย ทำด้วยจิตว่าง เพราะมนุษย์เรามันเจ๋งตรงที่ จะมีอุปสรรคแค่ไหนเราก็ไปต่อได้เสมอ
.
ถ้าชอบ เดี๋ยวบทความหน้ามาเขียนเล่าเกี่ยวกับ ’การพักผ่อน‘ ว่าถ้าอยากทำงานได้ดี ทำไมเราต้องพักผ่อนด้วย