การเริ่มต้นใช้งาน Obsidian: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

A notebook that says "Let's get started".

Obsidian เป็นแอปที่ยอดเยี่ยมและอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้เลยค่ะ แต่ มันก็เป็นแอปที่ซับซ้อน และการเริ่มต้นใช้งาน Obsidian อาจเป็นเรื่องท้าทาย หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นใช้งาน Obsidian และไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน บทความนี้เหมาะสำหรับคุณ

อะไรคือ Obsidian?

Obsidian เป็นแอปอเนกประสงค์ซึ่งสร้างขึ้นโดย Shida Li และ Erica Xu (ที่รู้จักกันในชื่อ Licat และ Silver ตามลำดับ)

ทีมงาน Obsidian ตั้งใจที่จะสร้างแอปจดบันทึกสำหรับยุคใหม่—พวกเขายังสร้าง Obsidian ให้เป็นแอปที่เน้นการทำงานแบบออฟไลน์เป็นหลัก หรือ local-first และที่สำคัญ ยังเน้นการ เชื่อมโยงบันทึกเข้าด้วยกัน

แนวคิดหลักของ Obsidian ไม่ได้ใหม่อะไร: หลายๆ ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกใช้โดยโปรแกรมเมอร์มาเป็นทศวรรษแล้ว แต่ Obsidian เป็นหนึ่งในแอปแรกๆ ที่ทำให้แนวคิดเหล่านี้ ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้สำหรับ ทุกคน

อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของ Obsidian ก็เป็นจุดอ่อนด้วย แนวคิดเหล่านี้ยัง ใหม่มาก ที่จะนำมาใช้ในแอปจดบันทึก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกว่าใช้ยากในตอนแรก เป้าหมายของบทความนี้คือการทำให้แนวคิดหลักของ Obsidian เข้าใจง่ายขึ้น และแสดงให้เห็นว่าคุณก็สามารถสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมด้วย Obsidian ได้เช่นกัน พริมหวังว่าการเริ่มต้นใช้งาน Obsidian ของคุณจะราบรื่นค่ะ

ใครควรใช้ Obsidian?

Obsidian เป็นแอปจดบันทึกที่ดีมาก ถ้าคุณเจอสถานการณ์ต่อไปนี้

  • หากคุณรู้สึกว่าสมองของคุณแบกรับข้อมูลมากเกินไป
  • หากคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถจำสิ่งที่คุณอยากจะจำได้ทั้งหมด
  • หากคุณเคยพยายามจดบันทึกในอดีต แต่ไม่เคยสำเร็จ
  • หากคุณชอบเขียนบันทึก
  • หากคุณชอบเขียน อ่าน หรือทำการวิจัย
  • หากคุณอยากรู้ว่าทำไม “คนพูดถึงแอปนี้เยอะจัง”

Obsidian ก็เป็นแอปที่เหมาะกับคุณ

ใครบ้างใช้ Obsidian ได้?

Obsidian พร้อมใช้งานเป็นแอป ข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งหมายความว่ามันสามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการหลักทั้งหมด—Windows, Mac และ Linux อย่างไรก็ตาม มันเป็นแอปที่คุณต้องดาวน์โหลด ซึ่งหมายความว่าหากคุณไม่สามารถดาวน์โหลดแอปลงในเครื่องของคุณได้ อาจจะไม่สามารถใช้งานได้

Obsidian ยังมี แอปมือถือ สำหรับทั้ง iOS และ Android การเริ่มต้นใช้งาน Obsidian Notes นั้นง่ายมาก แค่มีคอมพิวเตอร์หรือมือถือก็ใช้ได้แล้ว

Obsidian ฟรีไหม?

Obsidian ใช้งานได้ฟรี 100% สำหรับการใช้งานส่วนตัว คุณสามารถดาวน์โหลดแอป ได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของ Obdisian โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณต้องการใช้ Obsidian แต่ถ้าเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า จะมี ค่าธรรมเนียมรายปีเล็กน้อย ทีมงาน Obsidian ยังอนุญาตให้คุณซื้อใบอนุญาต Catalyst หากคุณใช้ Obsidian สำหรับการใช้งานส่วนตัวแต่ยังต้องการสนับสนุนทีมงาน

บริการเพิ่มเติม

ทีมงาน Obsidian ยังมีบริการพรีเมียมอีกสองบริการ: ซึ่งเรียกว่า Sync และ Publish

Obsidian Sync

Obsidian Sync ช่วยให้คุณซิงค์บันทึกของคุณระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ มีวิธีอื่นๆ มากมายที่สามารถทำได้เช่นกัน แต่ Obsidian Sync เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด หากคุณมีอุปกรณ์หลายเครื่องและต้องการซิงค์บันทึกของคุณระหว่างอุปกรณ์เหล่านั้น นี่คือหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดค่ะ

Obsidian Publish

Obsidian Publish ช่วยให้คุณสามารถ เผยแพร่ บันทึกของคุณได้อย่างง่ายดาย Publish ช่วยให้คุณเผยแพร่บันทึกของคุณบนชื่อโดเมนของคุณเอง หากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์แบบฐานข้อมูลความรู้ Publish ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเลยค่ะ

การเริ่มต้นใช้งาน Obsidian Notes

ดาวน์โหลดแอป

ก่อนที่เราจะใช้ Obsidian เราต้องดาวน์โหลดแอปก่อน หากคุณยังไม่ได้ดาวน์โหลด ไปที่ obsidian.md และดาวน์โหลดแอป

การสร้าง Vault

เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้ง Obsidian เสร็จแล้ว ให้เปิดแอปขึ้นมา สิ่งแรกที่แอปจะถามคุณคือการสร้าง Vault ใหม่:

The first thing you see when opening Obsidian: the create a new vault screen.

คลิกที่ปุ่มสีม่วงและตั้งชื่อให้กับ Vault ของคุณ รวมถึงเลือกตำแหน่งที่คุณต้องการเก็บ Vault บางคนวาง Vault ของไว้ในโฟลเดอร์ Documents แต่คุณสามารถวางไว้ที่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ

How to create a new vault in Obsidian.

เมื่อคุณคลิก "Create" Obsidian จะสร้างและเปิด Vault แรกของคุณ

เลือกธีมใหม่

ธีมเริ่มต้นอาจทำให้ผู้เริ่มต้นสับสนเล็กน้อย ดังนั้นพริมขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนธีมทันที ให้คลิกที่ไอคอนรูปเกียร์ที่มุมซ้ายล่าง และเลือกแท็บ "Appearance"

Showing the settings button in Obsidian, in the bottom left corner.
How to change themes in Obsidian.

ทางขวามือ คุณจะเห็นคำว่า “Themes” คลิกที่ “Manage” แล้ว Obsidian จะแสดงธีมที่มีให้เลือก พริมขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยธีม “Minimal” และคุณสามารถเปลี่ยนธีมนี้ได้ตลอดเวลาหลังจากที่คุณคุ้นเคยกับ Obsidian มากขึ้น

สร้างบันทึกแรกของคุณ

ตอนนี้คุณได้ติดตั้ง Obsidian และเลือกธีมที่เหมาะสมแล้ว ถึงเวลาสร้างบันทึกแรกของคุณกันแล้วค่ะ

มีหลายวิธีในการสร้างบันทึกใหม่ใน Obsidian แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือการคลิกปุ่ม “New Note” ที่มุมซ้ายบน

Creating a note in Obsidian, by clicking the New Note button in the upper left corner.

พริมขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วย Home note บันทึกหน้าหลักของคุณจะเป็นหน้าจอเริ่มต้นทุกครั้งที่คุณเปิด Vault และมันจะแสดงให้คุณเห็นว่าจะไปที่ไฟล์ไหนต่อ

แล้วคุณควรใส่อะไรใน Home note ของคุณ? อาจจะใส่สิ่งที่สนใจ หรืองานสำคัญของคุณก็ได้ค่ะ

# Home
- [[สิ่งที่สนใจ]]
- [[งาน]]
- [[Home]]

ข้อความข้างต้นอาจทำให้คุณสับสนว่าทำไมถึงมีวงเล็บสี่เหลี่ยมแปลกๆ? พริมขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ ลิงก์แบบวิกิ เป็นการเชื่อมโยงบันทึกเข้าด้วยกันด้วยการพิมพ์เครื่องหมายบนแป้นพิมพ์ค่ะ

แนะนำให้คุณรู้จักลิงก์

หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดใน Obsidian คือความสามารถในการ เชื่อมโยงบันทึก เข้าด้วยกัน

คุณคุ้นเคยกับลิงก์ในโลกออนไลน์อยู่แล้วใช่ไหมคะ—แต่การที่คุณเชื่อมโยงหรือลิงก์โน้ตเข้าด้วยกันได้ ยิ่งทำให้คุณคิดอะไรออกได้มากกว่าปกติ ปกติแล้วเรามักจะใช้โฟลเดอร์และตั้งชื่อไฟล์ แต่ Obsidian ทำให้คุณโยงบันทึกเข้าด้วยกัน และเห็นความสัมพันธ์ทั้งหมดของมัน และแค่คลิก คุณก็ไปยังโน้ตอื่นที่เกี่ยวข้องกันได้

การเชื่อมโยงบันทึกสองบันทึกเข้าด้วยกันนั้นง่ายมาก Obsidian ใช้ลิงก์แบบวิกิ ซึ่งมีลักษณะดังนี้: [[ลิ้งค์กับชื่อโน้ตที่เกี่ยวข้อง]] Obsidian ยังมีฟีเจอร์เติมคำอัตโนมัติสำหรับชื่อบันทึกที่มีอยู่ ดังนั้นเมื่อคุณพิมพ์ [[ หน้าต่างช่วยเหลือจะปรากฏขึ้น ฟังก์ชันนี้จะแสดงบันทึกที่ใช้งานล่าสุด และคุณสามารถพิมพ์ต่อเพื่อค้นหาบันทึกไหนก็ได้ ใน Vault ของคุณ

An example of Obsidian autocompleting a wiki-style link.

แนะนำให้รู้จัก Markdown

บันทึกทั้งหมดใน Obsidian จะถูกเก็บในรูปแบบที่เรียกว่า Markdown Markdown เป็นวิธีง่ายๆ ในการจัดรูปแบบบันทึกของคุณในรูปแบบข้อความ

Markdown อาจดูเหมือนยุ่งยากในตอนแรก และบางคนอาจมีคำถามว่า “ทำไมมันไม่มีรูปแบบเหมือนไฟล์ Word?” แต่จริงๆ แล้ว Markdown มีประโยชน์หลายอย่าง และเมื่อคุณเริ่มชินกับมัน คุณจะสามารถเขียนได้ เร็ว กว่าใน Markdown มากกว่าการใช้ Word

Markdown มีประโยชน์อย่างไร? นี่คือข้อดีบางอย่างของมันค่ะ:

  • Markdown เป็นรูปแบบที่สามารถใช้งานได้ในอนาคต แม้ว่าแอป Obsidian จะหายไป หรือถูกถอนการติดตั้ง บันทึกของคุณก็ยังสามารถเข้าถึงและอ่านได้
  • Markdown สามารถดูและแก้ไขได้ในแอปข้อความอื่นๆ
  • Markdown เขียนได้เร็วและง่าย เมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับมัน

ด้านล่างนี้คือคำสั่งพื้นฐานของ Markdown ที่คุณควรรู้


พื้นฐานของ Markdown

หัวข้อ (Headings): การสร้างหัวข้อให้พิมพ์เครื่องหมาย # ตามด้วยข้อความหัวข้อ จำนวนเครื่องหมาย # ที่ใช้จะกำหนดขนาดของหัวข้อ ตัวอย่างเช่น ## ชื่อหัวข้อ จะสร้างหัวข้อระดับสอง ขณะที่ ### ชื่อหัวข้อ จะสร้างหัวข้อระดับสาม (ยิ่งจำนวนระดับเยอะ หัวข้อยิ่งเล็ก)

ตัวหนา/ตัวเอียง (Bold/Italics): การสร้างข้อความตัวหนาหรือตัวเอียง ให้ล้อมรอบข้อความด้วยเครื่องหมายดอกจัน ( * ) ใช้ดอกจันเดียวสำหรับตัวเอียง และสองตัว ( ** ) สำหรับตัวหนา

ลิงก์ (Links): เราได้กล่าวถึงลิงก์แบบวิกิไปแล้ว การสร้างลิงก์ให้พิมพ์ข้อความลิงก์ในวงเล็บสี่เหลี่ยม [] แล้วตามด้วย URL ของลิงก์ในวงเล็บปีกกา คุณสามารถลากคลุมข้อความที่อยากให้เป็นลิ้งค์ แล้วกด (cmd/ctrl+k) หรือวาง URL เว็บไซต์ในแอปก็ได้ค่ะ

รายการ (Lists): มีสองประเภทของรายการใน Markdown—รายการที่เรียงลำดับและรายการที่ไม่เรียงลำดับ

รายการที่เรียงลำดับจะสร้างโดยการพิมพ์หมายเลขตามด้วยจุดสำหรับแต่ละรายการในรายการ ตัวอย่างเช่น:

1. รายการหนึ่ง
2. รายการสอง
3. รายการสาม

การสร้างรายการที่ไม่เรียงลำดับ ให้ใช้ดอกจัน ( * ) หรือเครื่องหมายลบ ( - ) วางไว้หน้าข้อความแทนการใช้ตัวเลข ตัวอย่างเช่น:

* รายการหนึ่ง
* รายการสอง
* รายการสาม

ข้อความอ้างอิง (Blockquotes): การสร้างข้อความอ้างอิง ให้พิมพ์เครื่องหมาย > ก่อนแต่ละบรรทัดของข้อความอ้างอิง ตัวอย่างเช่น:

> ปัญหาของการอ้างอิงจากอินเทอร์เน็ตคือคุณไม่สามารถพึ่งพาความถูกต้องของมันได้เสมอไป  
> --อับราฮัม ลินคอล์น

บล็อกโค้ด (Code Blocks): คุณสามารถใช้บล็อกโค้ดได้โดยใช้เครื่องหมาย backtick (เครื่องหมายเปลี่ยนภาษาของวินโดว์)
ใช้เครื่องหมาย backtick ตัวเดียวสำหรับโค้ดแบบในบรรทัด หรือใช้สามตัวสำหรับโค้ดที่เป็นช่วงๆ

การจัดระเบียบบันทึก

คุณอาจจะมีบันทึกที่เก็บไว้ที่อื่นแล้ว เช่นในแอป "Notes" บนโทรศัพท์ของคุณ เมื่อเริ่มต้นใช้งาน Obsidian คุณสามารถย้ายบันทึกเก่าๆ เข้ามาใน Obsidian และเชื่อมโยงบันทึกเหล่านั้นจาก Home Note ของคุณได้

มีหลายวิธีสำหรับการจัดระเบียบบันทึก และข้างล่างนี้คือบางวิธีที่คนใช้เยอะค่ะ

## แผนที่เนื้อหา (Maps of Content)

มีแนวคิดยอดนิยมในชุมชน Obsidian ที่เรียกว่า MOCs หรือ Maps of Content MOCs คือวิธีการมองเห็นโครงสร้างของบันทึกของคุณและดูว่ามันเชื่อมโยงกันอย่างไร

MOCs คือบันทึกที่เชื่อมโยงไปยังบันทึกอื่นๆ เป็นหลัก ซึ่งจะให้คุณมี ดัชนี หรือสารบัญย่อยที่คุณสามารถสร้างขึ้นสำหรับหัวข้อใดๆ โดยเฉพาะ และ MOCs เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการ จัดระเบียบบันทึกใน Obsidian อย่างรวดเร็ว

หากคุณกำลังทำการวิจัยในหัวข้อใดๆ MOCs เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการจัดระเบียบบันทึกที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถสร้าง MOC สำหรับแต่ละหัวข้อย่อยแล้วเชื่อมโยง MOCs เหล่านั้นเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง MOC หลัก ซึ่งจะทำให้คุณเห็นภาพรวมของการวิจัย และทำให้คุณค้นหาบันทึกเฉพาะได้ง่ายเมื่อคุณต้องการ

คุณยังสามารถใช้ MOCs เพื่อสร้างฐานความรู้ให้กับตัวคุณเองหรือทีมของคุณ นี่เป็นวิธีที่ดีในการเก็บข้อมูลที่ทุกคนต้องรู้ เช่น นโยบายบริษัทหรือกระบวนการดำเนินงานมาตรฐาน

การสร้าง MOC นั้นง่ายมาก—แค่สร้างบันทึกใหม่แล้วเชื่อมโยงไปยังบันทึกอื่นจากภายในนั้น คุณสามารถเชื่อมโยงไปยัง MOCs อื่นๆ ได้ด้วย อาจทำการสร้าง "แผนที่ที่นำทางไปยังโน้ตอื่น" (เหมือนตัวอย่าง home note ข้างต้น)

จากนั้นคุณสามารถเชื่อมโยงไปยัง MOCs ของคุณจาก home note และสร้างลิงก์ไปที่บันทึกอื่นๆ

วิธี PARA

อีกวิธีที่นิยมในการจัดระเบียบบันทึกคือวิธี PARA ซึ่งย่อมาจาก:

  • Projects (โครงการ)
  • Areas of Responsibility (เรื่องที่รับผิดชอบ)
  • Reference (แหล่งข้อมูลอ้างอิง)
  • Archive (คลังเก็บ)

วิธีนี้ได้รับความนิยมจาก Tiago Forte โดยทั้งสี่คำนี้แทนที่โฟลเดอร์ที่ใช้เก็บไฟล์ดิจิทัล ดังนั้นหากคุณนำ PARA ไปใช้ใน Obsidian คุณจะเริ่มต้นโดยการสร้างโฟลเดอร์ทั้งสี่ข้างต้น

โฟลเดอร์เหล่านี้แต่ละอันมีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงสถานะที่แตกต่างกันของไฟล์ของคุณ โครงการ (Projects) คือสิ่งที่คุณกำลังทำงานอยู่ในขณะนี้ เรื่องที่รับผิดชอบ (Areas) คือโครงการที่กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แหล่งข้อมูลอ้างอิง (Reference) ใช้สำหรับเอกสารอ้างอิงของโครงการของคุณ และคลังเก็บ (Archive) ใช้สำหรับทุกอย่างที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่อื่น

หากคุณต้องการใช้วิธี PARA คำแนะนำหนึ่งที่ช่วยได้คือให้ย้ายบันทึกทั้งหมดของคุณไปยังโฟลเดอร์ Archive ซึ่งจะช่วยให้คุณเริ่มต้นด้วย “หน้ากระดาษว่าง” แต่คุณยังคงมีบันทึกเก่าของคุณที่เรียกมาอ่านได้หากต้องการ

วิธี Zettelkasten

วิธี Zettelkasten เป็นระบบการจดบันทึกที่พัฒนาโดยนักสังคมวิทยาชาวเยอรมันและนักประวัติศาสตร์ Niklas Luhmann คำว่า "Zettelkasten" หมายถึง "กล่องบันทึก" ในภาษาเยอรมัน ซึ่งหมายถึงกล่องทางกายภาพที่ Luhmann ใช้เก็บบันทึกของเขา

Luhmann เป็นนักเขียนที่มีผลงานมากมาย และคาดว่าได้เขียนบัตรดัชนีกว่า 90,000 ใบตลอดอาชีพของเขา ซึ่งเขาใช้เพื่อเขียนงานเผยแพร่ 600 ชิ้นและหนังสือ 60 เล่ม ระบบของเขาถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเขาเชื่อมโยงแนวคิดต่างๆ และค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว

Zettelkasten มุ่งเน้นไปที่การสร้าง permanent notes (บันทึกถาวร) หลังจากที่คุณได้เรียนรู้หรือรวบรวมข้อมูลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนตกผลึกออกมาเป็นผลงานสุดท้ายแล้ว

ผู้ที่ใช้วิธี Zettelkasten มีกระบวนการในการสร้างบันทึกถาวรยังไง? โดยสรุปแล้วจะเป็นแบบนี้:

  • สร้าง fleeting note (บันทึกชั่วคราว) ทุกครั้งที่คุณพบข้อมูลที่น่าสนใจ บันทึกชั่วคราวเป็นบันทึกที่รวดเร็ว เช่นบันทึกบนกระดาษทิชชู เพื่อเตือนความจำ
  • ทบทวนบันทึกชั่วคราวของคุณเป็นประจำ เมื่อคุณทบทวน คุณควร:
    • เขียนบันทึกใหม่สำหรับผู้อ่าน ตั้งโจทย์ว่าคุณจะอธิบายแนวคิดนี้ให้กับคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
    • ตรวจสอบว่าไม่มีบันทึกที่คล้ายกันใน Zettelkasten ของคุณ (ถ้ามีให้รวมเข้ากับบันทึกนี้)
    • ค้นหาบันทึกที่เกี่ยวข้องใน Zettelkasten ของคุณและเชื่อมโยงไปยังบันทึกนั้น
    • ค้นหาบันทึกที่คล้ายกันและเชื่อมโยงบันทึกใหม่กับพวกมันด้วย

Zettelkasten เป็นเครื่องมือในการเขียนที่ออกแบบมาเพื่อทำให้การเขียนสนุกขึ้น รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำให้คุณตกผลึกความรู้ที่ใช้งานได้หลายปี

ฟีเจอร์ขั้นสูง (แต่ใช้งานได้จริง)

ยังมีฟีเจอร์ ขั้นสูง ใน Obsidian ที่หากคุณเรียนรู้แล้ว อาจทำให้การทำงานใน Obsidian ของคุณสนุกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติ (Properties)

Obsidian มีความยืดหยุ่นในการใช้ metadata ของบันทึก ข้อมูลเมตา (หรือบันทึกเกี่ยวกับบันทึกของคุณ) ถูกเรียกว่า Properties ใน Obsidian

หนึ่งในคุณสมบัติที่ง่ายที่สุดในการใช้งานทันทีคือ แฮชแท็ก # คุณสามารถจัดระเบียบไฟล์ของคุณที่มีข้อมูลคล้ายกันง่ายๆ ด้วยแฮชแท็กค่ะ

คีย์บอร์ดช็อตคัต (Keyboard Shortcut)

หมายเหตุ: เพื่อความสะดวกในรายการนี้ เราจะใช้คำว่า “super” ซึ่งหมายถึงปุ่มคำสั่ง (command key) บน Mac หรือปุ่ม ctrl บน Windows และ Linux
Shortcut คำสั่ง
Super+, เปิดเมนู settings
Super+b ตัวหนา
Super+i ตัวเอียง
Super+k ทำลิ้งก์
Super+p เปิดเมนูควบคุม (Command Palette)
Super+Shift+p เปิด Quick Switcher (เอาไว้เลือกไฟล์ต่างๆ)
Super+n สร้างโน้ตใหม่
Super+w ปิดแท็บปัจจุบัน
Super+t แท็บใหม่

คุณสามารถเปลี่ยนคำสั่งบน Hotkeys โดยไปที่โหมด Setting:

The hotkeys settings in Obsidian.

Command Palette และ Quick Switcher

เมนูควบคุม หรือ Command Palette เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถรันคำสั่งใดๆ ที่ Obsidian รองรับได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถใช้มันในการจัดรูปแบบข้อความ สร้าง เปิด หรือ ลบบันทึกได้ และสามารถเพิ่มแท็ก ฝังไฟล์ หรือแม้กระทั่งส่งออกบันทึกของคุณเป็น PDF นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณค้นหาคำสั่งและดูคีย์บอร์ดช็อตคัต (หากมี) ซึ่งก็มีประโยชน์มากเช่นกัน

ในการใช้คอมมานด์พาเลตต์ ให้กด ctrl+p (หรือ cmd+p บน Mac) จากนั้นคุณสามารถค้นหาคำสั่งเฉพาะ หรือดูรายการคำสั่งทั้งหมดที่สามารถใช้ได้

คุณยังสามารถกด ctrl+shift+p (หรือ cmd+shift+p) เพื่อสลับระหว่างไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้อาจเป็นฟีเจอร์ทีถูกใช้บ่อยที่สุดใน Obsidian เรียกว่าคำสั่ง Quick Switcher

เมื่อคุณเชื่อมโยงบันทึกบางรายการเข้าด้วยกันแล้ว คุณอาจสงสัยว่า: จะดูความสัมพันธ์ระหว่างบันทึกเหล่านั้นได้อย่างไร?

Obsidian มีเครื่องมือหลายตัวที่ช่วยในเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นคือ Backlinks Pane ที่อยู่ในแถบด้านขวา เครื่องมือนี้จะแสดงรายการบันทึกอื่นๆ ที่เชื่อมโยงมายังบันทึกปัจจุบันของคุณ:

An example of the backlinks pane in Obsidian.

ยิ่งคุณสร้างลิงก์มากเท่าไหร่ เครื่องมือนี้ก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น

คุณยังสามารถดูลิงก์ใน กราฟวิว (Graph View) ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของโน้ตทุกอันว่าสัมพันธ์กันยังไง

An example of the graph view in Obsidian.

การค้นหา

Obsidian ยังมีเครื่องมือค้นหาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณอาจจะได้ใช้บ่อย หากคุณไม่สามารถหาบันทึกที่เก็บไว้ใน Obsidian ได้ การค้นหาสามารถช่วยคุณได้ค่ะ

คุณจะพบเครื่องมือค้นหาที่มุมซ้ายบนของ Obsidian อยู่เหนือเครื่องมือเลือกไฟล์ ถ้าคุณเคยใช้เครื่องมือค้นหาของเสิร์จเอนจิน คุณก็ใช้เป็นทันที เพียงพิมพ์คำค้นหาของคุณแล้วผลลัพธ์จะปรากฏขึ้นขณะที่คุณพิมพ์

Community Plugin

ในชุมชนคนใช้ Obsidian มีคนพัฒนาปลัํกอินเสริมฟังก์ชันการใช้งานมากมายเลยค่ะ ในบทความอื่น พริมจะมาแนะนำปลั๊กอินเหล่านี้นะคะ

สรุป

Obsidian เป็นแอปจดโน้ตที่ทรงพลังมาก และจะทำให้งานของคุณสนุก มีโฟกัส และ Productive ขึ้นมากๆ หวังว่าคุณจะสนุกกับการใช้ Obsidian นะคะ

หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถเข้าร่วมกลุ่ม Obsidian Bangkok ทาง Facebook พริมก็อยู่ในกลุ่มนี้ และจะคอยตอบคำถามสำหรับผู้ใช้งาน Obsidian เท่าที่ทำได้ อีกทั้งสมาชิกคนอื่นๆ อาจจะช่วยหาคำตอบได้ด้วยค่ะ

เข้าร่วมกลุ่ม Obsidian Bangkok: https://www.facebook.com/groups/obsidianbangkok/