คุณโจ้ ธนา เขียนบทความเกี่ยวกับ Work-Life Balance บทความล่าสุด ไว้ในเพจ "เขียนไว้ให้เธอ"

คุณโจ้ให้ข้อคิดว่า

"หลายครั้งช่างตัดไม้ที่เก่งต้องหยุดตัดไม้ก่อน เอาเวลาไปลับขวาน ผลคือ เขาตัดไม้ได้มากกว่าคนที่เดินหน้าตัดไม้อย่างเดียวโดยไม่พัก"

น่าคิดว่า ที่คุณโจ้สื่อว่า "ต้องหาเวลาไปลับขวานบ้าง" มีนัยยะถึงการเอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง หาความรู้เพิ่ม เตรียมพร้อมทำงาน

พริมได้อ่านเลยมีคำถามว่า แล้วถ้าเรา "อยู่เฉยๆ" ล่ะ จะถือเป็นการลับขวานมั้ย ไม่ต้องเอาเวลาไปพัฒนาตัวเองมากก็ได้ แค่นั่งหายใจทิ้ง แค่นั้นจริงๆ

จากประสบการณ์ของพริม การอยู่เฉยๆ เป็นเรื่องดีค่ะ

เวลาเราอยู่เฉยๆ เราให้เวลาตัวเอง Process หรือประมวลผลสิ่งที่เกิดในชีวิต

เช่น ฉันจะทำงานกับคนนี้ดีไหม งานที่ทำอยู่เหมาะกับฉันหรือยัง ทั้งเรื่องจังหวะ เครื่องมือ ผลตอบแทน ฯลฯ

ความสัมพันธ์ของฉันกับพี่คนนั้นจะจัดการยังไง ความขัดแย้งที่มีกับเพื่อนจะทำยังไงให้ลงตัว

ไปจนถึงเรื่องบ้าน ครอบครัว ชีวิตส่วนตัว - สังเกตว่าเราไม่ได้ประมวลผลเรื่องงานอย่างเดียว

เพราะมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรผลิตงานค่ะ พริมเชื่อว่าอย่างงั้น

การปล่อยให้ตัวเองหยุดนิ่ง และพักผ่อนจริงๆ มันทำให้เรา "ได้งาน"

แต่การจะเข้าถึงสภาวะนี้ได้ เราต้อง "หยุดคิดแต่เรื่องงาน"

ไปใช้ชีวิตในมิติอื่นๆ ของความเป็นคนบ้าง ไปสนุกบ้าง ให้เวลาตัวเองเป็นเด็กบ้าง

เอื้อมมือไปแตะมิติอื่นๆ ของชีวิตที่ทำให้เรา "เป็นมนุษย์"

ผลลัพธ์ที่ได้น่าทึ่งมาก เพราะยิ่งคุณแตะมิติอื่นๆ ของตัวเอง

คุณจะยิ่งเจอตัวเอง และในวันที่คุณเจอตัวเอง การงานที่คุณทำจากการค้นพบมิตินี้ จะกลายเป็นของขวัญ

มันจะกลายเป็นการดำรงอยู่เพื่อทำตามความฝัน ไม่ใช่แค่ทำงานให้มีชีวิตรอดไปวันๆ

เมื่อคุณเจอตัวเองแล้ว คุณถอยหลังกลับไม่ได้อีก

วันนี้คุณอยู่เฉยๆ และตามใจตัวเองอย่างเต็มที่ได้แล้วหรือยัง?